บทความนี้จะพูดถึงประกันสุขภาพเด็ก ทำไมเด็กต้องมีประกันสุขภาพและวิธีเลือกประกันเด็กสำหรับพ่อแม่ เพราะโรคต่างๆเกิดขึ้นกับเด็กได้ง่าย และที่สำคัญหากเจ็บป่วยหนักค่ารักษาพยาบาลนั้นแพงกว่าค่าเบี้ยประกันหลายเท่า รวมถึงทางเลือกของการรักษาในโรงพยาบาลนั้นมีมากกว่าหากลูกน้อยมีประกัน และการเลือกตัวแทนประกันมืออาชีพ ตอบคำถามเคลีย ตอบเร็ว ช่วยเหลือประสานงานเคลม รวมถึงการเลือกบริษัทประกันที่มั่นคงนั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบแผนประกันเด็ก AIA
โรคที่พบบ่อยในเด็กและค่ารักษาพยาบาล
โรคที่พบบ่อยในเด็กในช่วงหน้าฝน และค่ารักษาพยาบาล เราควรวางแผนให้ครอบคลุม ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะมีงบประมาณเท่าไหร่สามารถแจ้งให้อิ๋มทราบ เพื่อช่วยคำนวณเบี้ยและแนะนำแบบประกันที่เหมาะสมให้กับลูกรักค่ะ แม้ว่าประกันเด็กจะมีราคาเบี้ยที่ค่อนข้างสูง แต่บางครั้งเราหลีกเลี่ยงอาการเจ็บป่วยของลูกไม่ได้ ใน 1 ปีมีการเคลมค่ารักษาพยาบาลลูกน้อยอย่างน้อย 1-2 ครั้ง และบางครอบครัวต้องเข้ารับรักษาตัวมากกว่า 3 ครั้งต่อปี

รวม 7 โรคเด่น เด็กเสี่ยงเป็นมากที่สุด
1) โรคไข้หวัดใหญ่
พบโรคไข้หวัดใหญ่ได้เกือบทั้งปี แต่ฤดูกาลระบาดหนักมักเกิดในช่วงฤดูฝน โดยอาการไข้ที่เกิดขึ้นจะเป็นแบบเฉียบพลัน และเนื่องจากโรคนี้สามารถเป็นได้ทุกวัย จึงแพร่กระจายได้ง่ายในครอบครัวที่อยู่ใกล้ชิดกัน ความแตกต่างจากไข้หวัดธรรมดานั้นคือโรคไข้หวัดใหญ่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น โรคปอดอักเสบ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ อาการส่วนใหญ่ที่พบจะมีไข้สูง ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว ไอหรือเจ็บคอ ทั้งนี้ สำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี หรือผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่น โดยสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งควรเข้ารับช่วงประมาณ 1-2 เดือนก่อนเข้าฤดูกาลระบาดหรือหน้าฝนของทุกปี สามารถฉีดได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
ค่ารักษาพยาบาลหากต้องมีการแอดมิทในโรงพยาบาลเอกชน อยู่ที่ประมาณ 25,000 – 85,000 บาท
2) โรคมือเท้าปาก
โรคมือเท้าปากเป็นผลจากการติดเชื้อไวรัส Enterovirus ซึ่งแสดงอาการเป็นตุ่มรอบปาก ริมมือ และริมเท้า หากแพทย์ตรวจพบอาการนี้ ควรรักษาโดยรีบพบแพทย์ เป็นโรคที่ผู้ใหญ่สามารถติดจากเด็กได้ มักพบบ่อยในเด็กทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และพบได้ประปรายในเด็กโต โดยเฉพาะเด็กที่อยู่รวมกันอย่างแออัด เช่น ในโรงเรียนอนุบาล สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์เด็กเล็ก โรคนี้เกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปีและจะพบเพิ่มขึ้นในฤดูฝน
การติดต่อ: เชื้อไวรัสจะเข้าสู่ปากจากการสัมผัสน้ำลาย น้ำมูก น้ำตุ่มพองและแผลของผู้ป่วย นอกจากนี้ยังเกิดจากการไอจามรดกัน และ โรคนี้สามารถเป็นซ้ำได้อีก

การรักษาโรคมือเท้าปากในโรงพยาบาลมักเริ่มต้นราคาคืนละ 20,000 ถึง 35,000 บาท แต่หากมีอาการรุนแรงราคาการรักษาอาจสูงเกิน 100,000 บาท โดยค่ารักษาขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยและระดับความรุนแรงของโรคค่ะ
3) โรคไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออกมักเกิดขึ้นในเด็กเล็กที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองจากยุงได้ อาการของโรคไข้เลือดออกเริ่มต้นด้วยไข้สูง ซึ่งอาจสูงถึง 40-41 องศาเซลเซียส และอาจเกิดอาการชักได้ ในระยะถัดมาจะมีเลือดออกเป็นจุดเล็กๆ บนผิวหนัง ควรระวังภาวะช็อกและการอักเสบของระบบภายใน เช่น ตับโต
โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่อาจเสียชีวิตได้ และเมื่อต้องรับการรักษาที่โรงพยาบาล มักจะเน้นการรักษาตามอาการ ค่ารักษามักอยู่ในช่วงราคา 40,000-50,000 บาทขึ้นไป ค่ารักษาอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและระยะเวลาการรักษาค่ะ
4) โรคอีสุกอีใส
การรักษา
รักษาตามอาการ เนื่องจากเป็นโรคที่หายเองได้ โดยผู้ป่วยอาจจะมีไข้อยู่เพียงไม่กี่วัน ส่วนตุ่มจะตกสะเก็ดและค่อยๆ หายไปเองใน 1-3 สัปดาห์
– ถ้ามีอาการไข้ ให้เช็ดตัว รับประทานยาลดไข้ พักผ่อน และดื่มน้ำมากๆ ไม่ควรใช้ยาแอสไพริน
– ถ้ามีอาการคัน ให้ทายาแก้คัน หรือรับประทานยาบรรเทาอาการคัน
– ควรอาบน้ำและใช้สบู่ฟอกผิวหนังให้สะอาด ควรตัดเล็บให้สั้น และหลีกเลี่ยงการแกะเกา เพราะอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ผิวหนังได้ง่าย และแผลอาจเกิดการติดเชื้อ
– ใช้น้ำเกลือสำหรับล้างแผล (Normal Saline) เช็ดแผล เพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น
.
รวบรวมข้อมูลโดย ฝ่ายประกันสุขภาพ เอไอเอ ประเทศไทย
5) โรคท้องเสียหรืออุจจาระร่วง (จากเชื้อไวรัสโรต้า หรือ โนโรไวรัส)
ท้องเสียหรือไวรัสลงกระเพาะ มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส ทำให้เด็กท้องเสีย อาเจียน ร่างกายขาดน้ำอย่างหนัก อาการมักรุนแรงในเด็กเล็กที่อายุน้อยและเป็นการติดเชื้อครั้งแรก (ไวรัสโรต้าสามารถเป็นได้หลายครั้ง) ในเด็กโตพบได้น้อยลงและความรุนแรงก็น้อยลง
ค่ารักษามักอยู่ในช่วงราคา 10,000 – 50,000 บาท หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและระยะเวลาในการรักษา
6) โรคไอพีดี (IPD) และปอดบวม

IPD ย่อมาจาก invasive pneumococcal disease คือโรคติดเชื้อชนิดลุกลามที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรียชื่อนิวโมคอคคัส ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือปอดอักเสบรุนแรง จนอาจทำให้เด็กพิการหรือเสียชีวิตได้โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
เชื้อนิวโมคอคคัสมีชื่อเต็มว่า Streptococcus pneumoniae เชื้อนี้พบได้ทั่วไปในโพรงจมูกและลำคอทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งสามารถแพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้ง่าย คล้ายไข้หวัด และทำให้เกิดโรคได้ในทุกกลุ่มอายุ ส่วนใหญ่ถ้าร่างกายแข็งแรงก็จะไม่แสดงอาการแต่เมื่อใดที่ร่างกายอ่อนแอ เชื้อนี้สามารถทำให้เกิดโรคร้ายแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะเด็กเล็กซึ่งยังสร้างภูมิคุ้มกันได้น้อย
อาการของการติดเชื้อนิวโมคอคคัสมีได้หลายอย่างขึ้นกับอวัยวะที่มีการติดเชื้อ หากเป็นโรคปอดอักเสบ มักจะมีอาการ ไข้ ไอ หายใจหอบเหนื่อย หากมีการติดเชื้อที่ระบบประสาท เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน คอแข็ง ในเด็กเล็กจะมีอาการงอแง ซึม ชัก และอาจเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว หากเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ผู้ป่วยก็จะมีอาการไข้สูง หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็ว อาจมีภาวะช็อค และอาจเสียชีวิตได้ นอกจากนี้เชื้อนิวโมคอคคัสยังสามารถทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้อีกหลายชนิด เช่น โรคไซนัสอักเสบ โรคหูชั้นกลางอักเสบ
ที่มา: สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
ค่ารักษาโรคไอพีดีและปอดบวมอยู่ในช่วงราคา 10,000 – 50,000 บาท หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและระยะเวลาในการรักษา
7) ติดเชื้อจากไวรัส RSV
RSV โรคยอดฮิตที่ติดกันง่ายในปัจจุบัน และค่ารักษาที่แสนแพง RSV เชื้อไวรัสที่มีชื่อเต็มๆว่า Respiratory Syncytial Virus ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจได้ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ซึ่งสามารถติดต่อได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กเล็กเมื่อติดเชื้ออาจมีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงกว่า และเด็กที่ร่างกายไม่แข็งแรงหรือมีโรคประจำตัวอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นระบบทางเดินหายใจล้มเหลวได้เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่พบมากในฤดูฝน
วิธีการรักษาหลักเมื่อต้องรับการรักษาคือ การใช้ยาพ่น การดูดเสมหะ การขยายหลอดลม การเคาะปอด ราคาการรักษาโดยประมาณหากไม่มีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ จะเริ่มต้นที่ประมาณ 10,000 ถึง 100,000 บาท และใช้เวลารักษาประมาณ 2-5 วันโดยประมาณ
รวมค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าแพทย์ ค่าอุปกรณ์พิเศษ หรือหากมีอาการแทรกซ้อนก็จะได้รับการรักษาตามอาการซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายตามมาอีก เช่น ค่ายาพ่นเพื่อขยายหลอดลมประมาณ 20,000-30,000 บาท เฉลี่ยค่ารักษาเคสนี้อยู่ที่ 50,000 – 70,000 บาท ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและระยะเวลาที่เข้ารับการรักษา
คำถามที่พบบ่อยในช่วงนี้คือ หากลูกเคยป่วยเป็น RSV มาแล้วสามารถทำประกันได้หรือไม่
คำตอบคือ การสมัครขอเอาประกันอาจจะทำได้ยากขึ้น หรือบริษัทประกันอาจจะมีการขอเลื่อนการรับทำประกันสุขภาพไปอย่างน้อย 6 เดือน – 1 ปี หรือบางรายอาจจะไม่คุ้มครองการเจ็บป่วยที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นแนะนำให้ผู้ปกครองวางแผนทำประกันให้ลูกในวันที่ลูกยังแข็งแรงค่ะ