หากคุณเป็นผู้ที่มีรายได้และต้องจ่ายภาษีบุคคลธรรมดา และต้องการลดหย่อนเพื่อประหยัดภาษีหรือจ่ายภาษีให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ บทความนี้จะมาช่วยคุณวางแผนการเลือกซื้อแผนประกันที่นำไปลดหย่อนภาษีได้และเหมาะสมกับคุณมากที่สุด
หากคุณเป็นผู้ที่มีรายได้และต้องจ่ายภาษีบุคคลธรรมดา และต้องการลดหย่อนเพื่อประหยัดภาษีหรือจ่ายภาษีให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ บทความนี้จะมาช่วยคุณวางแผนการเลือกซื้อแผนประกันที่นำไปลดหย่อนภาษีได้และเหมาะสมกับคุณมากที่สุด
เบื้องต้นเรามาดูกันก่อนว่าสิ่งที่สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการลดหย่อนภาษีนั้นมีอะไรบ้าง
หากคุณต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำอธิบายการหักลดหย่อนภาษีต่างๆ คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
Disclaimer: ข้อมูลทั้งหมดในบทความนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงและมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
รัฐบาลต้องการส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพ เพราะเมื่อประชาชนเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต อาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจได้ เพื่อป้องกันความเสียหายเหล่านี้ รัฐบาลจึงอนุญาตให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อประกันบางประเภทมาลดหย่อนภาษีได้ การซื้อประกันไม่เพียงช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิต แต่ยังเป็นการวางแผนการเงินล่วงหน้าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตและเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นอกจากนี้ ยังช่วยลดภาระของภาครัฐได้อีกด้วย
การนำประกันชีวิตไปลดหย่อนภาษีตามมาตรา 27 และประกาศกรมสรรพากร ฉบับที่ 172 การใช้กรมธรรม์ประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษีต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังนี้:
ปัจจุบันกฎหมายอนุญาตให้ประกัน 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ประกันชีวิตทั่วไป ประกันชีวิตแบบบำนาญ ประกันสุขภาพตนเองและประกันสุขภาพของพ่อแม่ สามารถนำเบี้ยประกันภัยไปลดหย่อนภาษีได้
ประกันชีวิตคืออะไร? ประกันชีวิตคือการคุ้มครองชีวิตของผู้เอาประกัน เมื่อเกิดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประกันนั้นๆ ค่าเบี้ยประกันที่จ่ายสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท (รวมทุกกรมธรรม์)
เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองตลอดชีวิต ค่าเบี้ยประกันไม่สูง และจ่ายเบี้ยประกันเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น หากผู้เอาประกันเสียชีวิตหรือมีชีวิตอยู่ครบตามสัญญา บริษัทประกันจะจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์ตามที่ตกลงกันไว้
เป็นประกันที่เน้นคุ้มครองชีวิตในระยะเวลาสั้น ๆ ค่าเบี้ยประกันไม่สูง หากผู้เอาประกันเสียชีวิตในช่วงเวลาที่กำหนด บริษัทประกันจะจ่ายเงินให้กับผู้รับประโยชน์ แต่ถ้าครบกำหนดแล้วผู้เอาประกันยังมีชีวิตอยู่ จะไม่ได้รับเงินคืน
เป็นประกันที่เน้นการเก็บออมเงินควบคู่ไปกับการคุ้มครอง มีเงินคืนให้ระหว่างทาง โดยเน้นการได้รับเงินคืนมากกว่าความคุ้มครอง
เป็นประกันที่รวมการคุ้มครองชีวิตกับการลงทุนในกองทุนรวม คุณจะได้รับความคุ้มครองชีวิตพร้อมกับโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน
หลายคนอาจสงสัยว่าการทำประกันชีวิตช่วยลดหย่อนภาษีได้เท่าไร? การลดหย่อนภาษีจากประกันชีวิตสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ ดังนี้:
เบี้ยประกันชีวิตจากประกันเหล่านี้สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี หากทำประกันชีวิตให้คู่สมรสที่ไม่มีรายได้ สามารถลดหย่อนได้เพิ่มเติมสูงสุด 10,000 บาท
- ค่าการประกันภัย - ค่าใช้จ่ายหลักอื่น ๆ ของกรมธรรม์ - ส่วนที่ใช้ลงทุน
สำหรับส่วนที่ 1 และ 2 สามารถนำมารวมกับประกันชีวิตแบบทั่วไปเพื่อลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี ส่วนของการลงทุนไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
ประกันชีวิตตลอดชีพ 20/99 ชื่อแผน 20 Pay Life และ 20 Pay Life Plus
จ่ายเบี้ย 20 ปี คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี
คุณสามารถนำค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายไปมาลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อนำมารวมกับค่าเบี้ยประกันชีวิตทั้งหมดแล้ว ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
หากคุณซื้อประกันสุขภาพให้กับพ่อแม่ คุณสามารถนำค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไปมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่ารายได้ของพ่อแม่ในปีภาษีนั้นต้องไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี คุณต้องแจ้งความประสงค์และให้ความยินยอม (Consent) แก่บริษัทประกัน เพื่อส่งข้อมูลนี้ให้กรมสรรพากร
ประกันชีวิตแบบบำนาญเป็นประกันที่ช่วยให้คุณมีเงินเก็บไว้ใช้ยามเกษียณ โดยคุณสามารถนำค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนจริง แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี และสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมกับเงินที่นำไปลดหย่อนภาษีจากกองทุนอื่นๆ เช่น กองทุน RMF, SSF, PVD, กบข., และอื่นๆ ทั้งหมดนี้จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
*หมายเหตุ ถ้าไม่มีประกันแสนแรก บำนาญนำไปลดหย่อนได้ 300,000 บาท
เหตุการณ์ที่ต้องใช้เงินนั้นควบคุมได้ยาก ทำให้บางทีหมุนเงินจ่ายค่าประกันไม่ไหว และเดือดร้อน มีความจำเป็นที่ต้องหยุดจ่ายเบี้ยประกัน ควรเลือกวิธีใดที่จะทำให้ลดโอกาสในการโดนภาษีย้อนหลัง
เงิน 1 บาทได้ประโยชน์ 2 เด้ง
จะเห็นได้ว่าสิทธิ์ประกันลดหย่อนภาษีของประกันแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน รวมทั้งยังมีเงื่อนไขในการลดหย่อนด้วย ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจ
ค่าลดหย่อนประกันแต่ละประเภทอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนถูกต้องตามที่ควรจะได้รับ รวมทั้งป้องกันการใช้สิทธิ์ลดหย่อนผิดพลาด
อย่างไรก็ตามก่อนตัดสินใจว่าจะทำประกันลดหย่อนภาษีที่ไหนดี อย่าลืมตรวจสอบความคุ้มครองของแผนประกันเป็นหลัก เพราะสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นเพียงผลประโยชน์เพิ่มเติมเท่านั้น
แหล่งข้อมูล
เวปไซต์สรรพกร คำถามที่พบบ่อย
ขึ้นอยู่กับการวางแผนของแต่ละบุคคล เพราะประกันเกือบทุกแผนสามารถนำไปช่วยลดหย่อนภาษีได้ แนะนำให้ปรึกษาตัวแทนค่ะ
ภาษีเป็นเรื่องรองแต่ความคุ้มครองเป็นเรื่องหลักค่ะ บริษัทประกันที่อิ๋มสามารถเสนอให้ได้คือ AIA ค่ะ รวมผลิตภัณฑ์แนะนำ
ควรแจ้งความประสงค์ให้บริษัทประกันเพื่อให้บริษัทประกันส่งเรื่องให้กับสรรพกรเพื่อความสะดวกของลูกค้า หรือหากไม่เคยแจ้งความประสงค์ไว้สามารถทำรายการได้ด้วยตนเองที่ แจ้งความประสงค์เปิดเผยข้อมูลกับสรรพกร
แผนประกันบำนาญ เหมาะกับผู้ที่มีประวัติสุขภาพและอยากนำเบี้ยไปลดหย่อนภาษีได้เต็ม
ไม่ได้ ต้องเป็นเบี้ยประกันสุขภาพเท่านั้นถึงสามารถนำไปลดหย่อนได้
เงื่อนไขของสรรพกร คือเบี้ยประกันสุขภาพสามารถนำไปลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาทเท่านั้น หากเบี้ยเกินจากนี้จะนำไปลดหย่อนเพิ่มไม่ได้ แต่ประกันสุขภาพนั้นมีความสำคัญมาก การจ่ายเบี้ยสูงคือการได้มาซึ่งความคุ้มครองที่มากขึ้น ดังนั้นไม่ควรลดแผนประกันเพียงเพื่อนำเบี้ยไปลดหย่อนภาษี ประกันสุขภาพปกป้องเงินก้อนใหญ่มากกว่าภาษีที่คุณจ่ายแน่นอน
ประกันโรคร้ายแรงถือว่าเป็นประกันสุขภาพอย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน ดังนั้นสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ แต่รวมเบี้ยประกันสุขภาพกันแล้วนำไปลดหย่อนได้ไม่เกิน 25,000 บาท
หากคุณต้องการความช่วยเหลือในการวางแผนภาษี สามารถติดต่อตัวแทนได้ทางอีเมลด้านล่าง
หรือทางแอป Line โดยตรงนะคะ
เว็บไซต์นี้ไม่ใช่เว็บไซต์